คอนเทนต์ทางเพศ ความบิดเบี้ยวที่พวกเราต่างยอมรับ (Sexual Content on Internet)
"What went wrong, Commander."
(Credit ผู้วาด : AdachiT)
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป คือช่วงที่มันครบรอบกับวันที่ผมเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก และก็เป็นวันเดียวกับที่ผมตระหนักรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายตัวเอง
ไม่ใช่ในทางที่ดีขึ้น แต่เป็นในทางที่แย่ลง
อารมณ์อันพลุ่งพล่านที่มาพร้อมกับความน่าหงุดหงิดในชีวิตประจำวัน แม้เพียงเล็กน้อย หากแต่มันกลับทำให้ผมไม่อาจปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ออกไป พาลทำให้ช่วงเวลาที่มันควรจะโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้า กลับกลายเป็นว่าเราดันคิดนึกถึงอนาคตอันไม่มีความแน่นอนเข้าไปแทน
อย่างไรเอง ผมคงไม่ต้องสาธยายถึงเรื่องนั้นเท่าไหร่หรอก จริงไหม? :)
Let’s start the topic, shouldn’t we?
คงเป็นอีกหนึ่งครั้งสำหรับการที่ผมออกมาแสดงความเห็น หรือพูดคุยถึงเรื่องราวอันเป็นสิ่งที่มองเห็นผ่านชินตามากมายในโลกโซเชียลอันวุ่นวายที่เสมือนกลายเป็น ‘ของแสลง’ ไปสำหรับพวกเราหลายคน
พวกเราเติบโตมาพร้อมกับมัน และในเวลาเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนเราจะหนีไม่พ้นมากที่สุดนั่นคงหนีไม่พ้นสิ่งที่มันแพร่กระจายไปยิ่งกว่าสิ่งอื่นสิ่งใด
คอนเทนต์เสียว (Sexual Content)
Forgive me for letting you down
Forgive me for letting you down again
Guess I’m not strong enough
Right now
เราเห็นผ่านมันจนชินตา สิ่งที่มันกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ ไม่ว่าต่อให้จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
เฉกเช่นเดิมกับสิ่งที่ผมเคยพูดไว้ ‘สื่อทางเพศ’ ไม่ใช่เรื่องที่แย่ และการตัดหรือกีดกันออกไปก็ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรเอง เมื่อจำนวนของมันเริ่มมีการเพิ่มมากขึ้นและแฝงเข้ามาอยู่ในรูปของ ‘สื่อสาธารณะ’ แล้ว โอกาสในการที่มันจะทำให้ผู้คนบางส่วนโดนหลอกล่อและเข้าถึงมันได้มากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
ผมไม่ได้ต่อต้าน หากแต่กลับรู้สึก ‘แย่’ อยู่นิดหน่อยที่จะต้องบอกว่าในช่วงของการพยายามงดการช่วยตัวเองนั้นกลับไม่ได้ผล ว่ากันว่าการที่เราพยายามหาเหตุผลเพื่อที่จะหยุดเสพติดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือเราจะหวนกลับไปคิดถึงสิ่งนั้นเสมอ แม้เพียงแค่การถูก ‘กระตุ้น (Trigger)’ ได้เพียงแค่ครั้งเดียว = ถูกฉุดเข้าไปสู่วังวนเดิมขึ้นอีกครา
ราวกับมันคือ ‘ขุมนรก’ ที่พวกเรายินยอมให้มันจองจำพวกเรา
‘โซเชียลมีเดีย’ ก็เป็นแบบนั้น
(Credit ผู้วาด : crazycken)
บอกไว้ก่อนล่วงหน้า เจตนาของผมไม่ได้มีการส่งเสริมหรือชักชวนใด ๆ หากแต่ยังคงกลับไปวกตั้งคำถามเดิมขึ้นอีกครั้ง หากแต่ในครั้งนี้มันจะมีความเข้มข้นมากกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย นั่นคือการลองจินตนาการภาพถึงการที่พวกเรากำลัง ‘ช่วยตัวเอง’ อยู่ต่อหน้าใครสักคน
ลองฉุกคิดดูสักพักว่าพวกเขาจะแสดงออกเช่นไร
ลองนึกจินตนาการไปว่าการได้กระทำเช่นนั้น สายตาของผู้ที่มองเข้ามาหาคุณกำลังทำหน้าแบบไหน
ทีนี้คุณก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ
(Credit ผู้วาด : Bluebeel)
ต้นเหตุของความโดดเดี่ยวโดยทั่วไปมักมาจากความรู้สึกอันไม่มั่นคง และถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยจากภยันอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ กระนั้นแล้วความกังวลต่อ ความเปลี่ยนแปลงในสังคม มันก็ทำให้พวกเราต่างรู้สึกถอยห่างออกจากความเป็นจริง และกระโดดเข้าสู่ ‘โลกเสมือน’ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ผมย้อนกลับไปนึกถึงตัวเอง ณ สมัยช่วงหนึ่งที่การไถหน้าโซเชียลมีเดีย เสมือนเป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้หลบหนีออกจากความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าผม ความไม่น่าพิสมัยของมันที่มาพร้อมกับความยากลำบากที่ได้แต่ทำให้หัวสมองของผมรู้สึกขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ในที่สุดการหันกลับไปทำในสิ่งที่มันเป็น ‘กิจวัตรประจำวัน’ กลับทำให้ตัวผมถูกกลืนกินไปไม่ต่างจากมนุษย์ในสังคมคนอื่น ๆ
เรา หลุดจากการควบคุม มันไม่ได้
เป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาหรือรับรู้ถึงกระแสที่มันผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละวัน หลายอย่างนั้นทำให้สมองของผมมันมีการประมวลผลในจำนวนที่มากจนเกินไป ความกังวลที่มากเกินเหตุมันส่งผลทำให้ความรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจเริ่มทำงาน และในหลายครั้งมันก็นำไปสู่ ‘ความคิดที่ชั่วร้าย’ จนบางครั้งแล้วผมอาจจำเป็นต้องมองหาความช่วยเหลือจากใครสักคน
คำถามคือ ใครบ้างล่ะ? ใครกันที่จะพาเรา ‘ฉุด’ ออกไปจากความคิดเช่นนั้นได้
จริงอยู่ว่าการยอมรับถึง ‘ด้านมืด’ ของตัวเองมันคือสิ่งที่ทำให้เรารับรู้ว่าพวกเรามี ‘มัน’ อยู่ข้างกายของเรา แต่ในหลาย ๆ ครั้งสิ่งเหล่านี้กลับยิ่งเพิ่มพูนความต้องการในการที่เราจะหลบหนีออกไปจากความเป็นจริง เพื่อหวนกลับเข้าสู่โลกเสมือนที่มันถูกสร้างเพื่อตอบสนองสิ่งที่เราต้องการ เพียงแค่การป้อน ‘คำสั่ง (Prompt)’ ลงไปในเวลาเดียวกัน
เรื่องราวการเพิ่มตัวของสื่อทางเพศ มีส่วนเกี่ยวเนื่องเล็ก ๆ กับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)’
การมาของมันทำให้การสร้างสื่อเหล่านี้มีจำนวนเยอะมากขึ้น หากไม่นับถึงเรื่องของความพยายาม หรือในมุมมองทางศิลปะที่ผมเชื่อว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้แต่สิ่งที่เรียกว่า ‘เอกลักษณ์’ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น งานศิลปะทุกชิ้นล้วนแล้วแต่มี ‘ความเป็นปัจเจก’ ในตัวเองไปเสมอ
แต่ความปัจเจกที่ว่าตรงนั้นมันกลับแรงกระเพื่อมต่อสังคมของผู้ทำงานสร้างสรรค์มากพอสมควร และในหลายครั้งเอง มันก็ได้เปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อ ‘ความเป็นมนุษย์’ ในรูปแบบอันตื้นเขิน หรือไม่ก็เป็นเพียงเพราะความเบื่อหน่ายของผู้ที่สูญสิ้น ‘ความศรัทธาในมนุษย์’ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมโลก ณ เวลานี้
ผมไม่เคยพูดว่าตัวผมเองเกลียดมัน และหากจะพูดให้ถูกมากกว่านี้ ผมอยู่กับเจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ มาก่อนที่ ChatGPT จะถือกำเนิดขึ้นมาเสียอีก ที่จริงแล้วในช่วงการตั้งไข่ของ AI ยังถือว่าไม่ได้เป็นอะไรที่ถูกพูดถึงมากในสังคมคนทั่วไป ถ้าใครที่ยังพอจำได้ในช่วงปี 2012 ไปจนถึงช่วงปี 2015 ช่วงเวลานั้นถือว่าค่อนข้างเป็นอะไรที่หลายสิ่งหลายอย่างมีความน่าจดจำ (อย่างน้อยก็ ‘ผม’ คนหนึ่ง) และในเวลาเดียวกันมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผมได้กลับมาย้อนคิดถึงการที่ตัวเองได้ยิ้ม และการได้สร้างสรรค์ ‘เรื่องราวโง่ ๆ’ หลายอย่างที่ตัวเองเคยทำ
แม้จะเป็นความสนุก และความหุนหันพลันแล่นเพียงชั่วคราว ทว่าภายใต้ความเขลาในช่วงเวลานั้นมันก็ทำให้ผมค่อย ๆ ตระหนักได้ว่าในอนาคตต่อจากนี้ไป
- ทุกสิ่งอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ ‘แตกต่าง’ ไปจากเดิมชนิดที่เราไม่อาจคาดการณ์ถึง -
ขยายความอีกเล็กน้อย ความหมายของคำว่า ‘เรื่องราวโง่ ๆ’ นั้นโดยส่วนใหญ่ มักจะเป็นอะไรที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องของความวุ่นวายในโลกอินเทอร์เน็ตที่มันไม่ได้ยุ่งเหยิงเสียเท่าไหร่นัก
หมายรวมไปยันถึงเรื่องของ คอนเทนต์เสียว ที่ตัวมันเองก็ไม่ได้แพร่หลายเท่า ณ ตอนนี้
ผมอาจจะยังคงเกาะติดกับเรื่องราวเหล่านี้ต่อไป เฝ้ารอดูอย่างเงียบ ๆ และในระหว่างนั้นก็พยายามหักดิบเพื่อลดละสิ่งเหล่านี้ให้ลดลง ให้ความสนใจต่อสิ่งที่มันคุ้มค่ามากเกินกว่าแค่ ความสุขเพียงชั่วคราว ที่ผมอาจหลงกลมันเข้าอีกครา เหมือนกับการผลัดตกจากภูเขาโดยที่ยังไม่แม้แต่จะขึ้นไปถึงบริเวณจุดเริ่มต้นของมันด้วยซ้ำ
ไม่แน่ว่าเมื่อถึงคราวที่เราได้มาพบพานกับเรื่องนี้อีกครั้ง ถึงตอนนั้นผมอาจจะได้มารายงานถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ภายหลังจากระยะเวลาหนึ่งเดือนผ่านไป หรืออย่างน้อยที่สุดคือหนึ่งสัปดาห์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น