สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า 'แฟนด้อม' และความสำคัญของชุมชนผู้เล่นวิดีโอเกมในยุค 2025 (Fandoms & Video Games Communities)
Ayy look, it's Anby! :D
ถือเป็นความน่าปิติยินดีอย่างหนึ่งสำหรับการกลับไปสู่วงการ 'เกมกาชา' นั้นทำให้ผมได้รับโชคในสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดไว้เสียเท่าไหร่ หากแต่ถ้าจะให้พูดกันแบบไม่ต้องมีการสาธยายความอะไรมาก คงต้องเรียกได้ว่าการ 'สุ่ม' ของผมนั้นมันดูเหมือนเป็น 'โชคลาภ' บางอย่างสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมนี้ได้เพียงไม่กี่วัน
แม้การต้องนั่งรอช่วงเวลาของการโหลดแพทช์อัปเดตนั้น จะเกือบทำให้ผมท้อถอยจนอยากลบเกมไปก็ตาม
อย่างไรก็ดี มุมมองที่ผมมีต่อ 'เกมกาชา' ในช่วงยุคปี 2025 นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบของการเน้นเรื่องของ 'คาแรคเตอร์ดีไซน์' มากกว่าจะหนักหน่วงไปในทางด้านของระบบเกมเพลย์ (ซึ่งส่วนนี้ผมเห็นด้วย แต่อย่างไรมันก็ยังถูกรวมอยู่ใน 'แก่นหลัก' ของการทำให้วิดีโอเกมมันน่าสนใจอยู่ดี)
หากแต่สำหรับในครั้งนี้ ผมคิดว่าผมอยากจะขอพักเอาไว้ในส่วนของเรื่องราวชวนจิตตกและน่าหดหู่ไปเสียหน่อย คิดเสียว่าในส่วนนี้ถือเป็นการที่ผมตั้งคำถามเล่น ๆ สักหนึ่งหรือสองคำถาม รวมถึงการชวนหันเหมาดูในสิ่งที่มันถือได้ว่าเป็น 'วัฒนธรรมรอง (Subculture)' ของโลกวิดีโอเกม ซึ่งมันมีหลาย ๆ เรื่องราวชวนให้น่าครุ่นคิดถึงและมองย้อนนึกไปถึงช่วงครั้งที่พวกเราต่างยังคงจับกลุ่มนั่งเล่นเกมกันในบ้านของเพื่อนในละแวกหมู่บ้าน (ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ทราบได้ชัดเจนว่ามันยังคงมีหรือไม่ แต่ถ้ามีก็สามารถเข้ามาแชร์เรื่องราวได้เสมอครับ ผมรออ่านอยู่เสมอ)
และเจ้าสิ่ง ๆ นั้นมันพ่วงมาพร้อมกับการมาถึงของยุคการสื่อสารอันกว้างไกล ซึ่งเรียกว่า 'อินเตอร์เน็ต'
ขอยินดีต้อนรับสู่โลกของผู้หลงใหล และได้เวลาที่เราจะมาทำความรู้จักกับ 'แฟนด้อม' กันครับ :D
Hmm, how can I start this?
นับเป็นหนึ่งในหัวข้อที่มันกว้างขวางมากเสียจนไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากจุดไหน อย่างไรก็ดี ก่อนอื่นผมจะขออธิบายความแตกต่างระหว่าง 'แฟนด้อม' กับ 'ชุมชน' เพื่อให้เข้าใจตรงกันเป็นอย่างแรก
ทั้งสองคำล้วนมีความหมายที่ใกล้เคียงกัน และอาจจะเหมือนกันชนิดที่ว่าเป็นเรื่องยากที่จะแยกออกจากกันได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า 'แฟนด้อม' ทุกท่านคงจะทราบกันดีว่ามันเป็นชื่อของเว็บไซต์สารานุกรมแห่งหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้ามาปรุงเสริมเติมแต่งข้อมูลได้ตามจินตนาการของตัวเอง (รูปแบบเดียวกับ Wikipedia หากแต่จะมีรายละเอียดเบื้องลึกที่แตกต่างในด้านความถูกต้องของข้อมูล + ความเป็นทางการที่เหมาะแก่การหาความรู้ในระดับผิวเผิน)
ซึ่งในส่วนของแฟนด้อม แม้มันจะดูคล้ายกับ Wikipedia มาก หากแต่อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้น ด้วยความที่มันเปิดอิสระให้กับผู้ที่สามารถเข้ามาปรุงเสริมเติมแต่งข้อมูลได้โดยอิสระ ทำให้ในบางครั้งแล้ว หากคุณต้องการทราบข้อมูลที่มันเป็น 'ข้อเท็จจริงทางวิชาการ' เกรงว่านี่อาจไม่ใช่ 'ตัวเลือกที่ดี' สำหรับการใช้งานเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตาม ผมคงจะไม่ปฏิเสธว่าโดยส่วนใหญ่ข้อมูลจากเหล่าบรรดาแฟนคลับผู้ติดตามในสื่อประเภท ๆ หนึ่งชนิดที่ว่ามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่มาก ข้อมูลเหล่านี้ก็พอมีมูลไว้สำหรับใช้เพื่อประกอบการค้นหาข้อมูลเบื้องลึกอีกเป็นจำนวนมาก ๆ ในมหาสมุทรข้อมูลอันกว้างใหญ่ไพศาลเหล่านี้
แต่... อย่างไรเอง อย่าได้ลืมว่า ข้อเท็จจริง จากสิ่งที่ถูกเขียนออกมา ในบางครั้งเค้ามูลของ 'ความเป็นจริง' ก็มักจะสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปอย่างเสมอ
ถึงกระนั้น มันคงไม่ได้น่าสนใจมากเท่าไหร่หรอก จริงไหม? ¯\_(ツ)_/¯
Me in IRL & Me in videogames be like :
สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ แฟนด้อมเปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้โลกของสื่อบันเทิงนั้นขยายใหญ่ออกไปได้กว้างไกลเกินกว่าที่พวกเราต่างยากจินตนาการถึง เปรียบเสมือนเป็น 'สังคมเฉพาะกลุ่ม' ที่เมื่อดำดิ่งลงไปให้ลึกมากกว่าแค่การเป็น 'ชุมชนผู้เล่นเกม' ด้วยแล้วมันยิ่งทำให้เรามองเห็นหรือสามารถเข้าใจถึงสิ่งต่าง ๆ ในรูปแบบที่มันอาจสร้างอารมณ์และเปลี่ยนแปลงความคิดของเราไปได้ในหลากหลายทาง
จากประสบการณ์ของการที่ผมได้คลุกคลีกับมัน 'แฟนด้อม' ถือเป็นอีกหนึ่งสังคมที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในแง่ว่าด้วยการใช้คำศัพท์เฉพาะ ปฏิกิริยาหรือท่าทาง แม้แต่กระทั่งกับคำพูดอันเป็น Iconic สำคัญจากสิ่งที่สื่อบันเทิงพวกนั้นได้แสดงออกมา อาจนับรวมยันไปถึงมันมีส่วนช่วยในการผลักดันเพื่อให้คนผู้นั้นสามารถที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น 'มนุษย์ที่ดี' และรู้จักสิ่งที่เรียกว่า 'ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Empathy)' ได้มากขึ้น
สังคมเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไรอาจไม่มีใครรู้ ทว่าหากจะให้ลองคิดและจินตนาการถึงที่มาของมัน อาจต้องเล่าย้อนความกันไปตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยเมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนหน้านี้ ยุคที่อินเตอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึง และอาจเทียบเท่าได้ว่ามันคือ 'กลุ่มบุคคล' ผู้ชื่นชอบหรือคลั่งไคล้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเป็นพิเศษ
คำว่า 'แฟนด้อม' เริ่มถูกใช้เป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมันก่อเกิดขึ้นมาจากเหล่าบรรดาของผู้ชื่นชอบในวรรณกรรมแนววิทยาศาสตร์ ทว่าจุดเริ่มต้นของมันจริง ๆ ต้องพูดกันไปถึง ณ วันเวลาที่วรรณกรรมแนวสืบสวนสอบสวนอย่าง เชอร์ล็อค โฮสม์ ซึ่งมีผู้ประพันธ์โดย เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ โดยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวรรณกรรมอมตะที่แม้จะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในชุดวรรณกรรมที่มันยังเป็นที่กล่าวถึงในแวดวงของผู้อ่านอยู่เช่นเดิม (แม้ว่า ณ ปัจจุบันเท่าที่ผมสังเกตมาอาจมีจำนวนน้อย เพราะส่วนนึงคนคงน่าจะไหลกันไปกรูในส่วนของ 'วรรณกรรมจีน' หมดแล้วก็ดี)
อย่างไรเอง แน่นอนว่าจุดกำเนิดของการที่ทำให้ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของ 'แฟนด้อม' นั้นมันถูกขยายออกไปไกลมากขึ้น ก็ล้วนมาจากเรื่องราวของผู้ประพันธ์งานเขียนดังกล่าวที่แน่นอนว่าเมื่อ 'เรื่องแต่งในจินตนาการ' มันได้ขยายออกไปไกลมากขึ้น ถึงขั้นระดับที่ผู้คนบางส่วนเชื่อว่าตัวละครในโลกหนังสือนั้นมีอยู่จริง เมื่อนั้นเองมันก็ได้ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า 'ข้อถกเถียง' รวมไปถึง 'การวิเคราะห์เชิงลึก' หรือแม้แต่การวิจารณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากผลงานของผู้ประพันธ์คนนั้น
หนึ่งในสิ่งที่ผมเชื่อว่าน่าจะคุ้นหูกันไม่มากก็น้อย นั่นคือ 'แฟนฟิคชั่น (Fan Fiction)'
My Favourite Subject 😤
อธิบายอย่างกระชับและเข้าใจง่ายที่สุด 'แฟนฟิคชั่น' คือวรรณกรรมที่สร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากเนื้อหาหลักอย่างเป็นทางการของตัวผู้แต่ง (ที่เป็นเจ้าของเรื่อง ๆ นั้น) โดยเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาเป็น 'แฟนฟิคชั่น' ไม่ใช่ เนื้อหาที่เขียนขึ้นจากตัวเจ้าของเรื่อง หากแต่เป็นเพียงเหล่าผู้ชื่นชอบและพยายามที่จะสร้างเนื้อเรื่อง 'ในความเข้าใจ' ของตัวพวกเขาเองจุดประสงค์การมีอยู่ของแฟนฟิคชั่น ถือได้ว่ามีอยู่อย่างมาเนิ่นนาน และหากว่าถ้าตัดเอาความคิดเห็นอันเป็น 'อคติ' ออกไป เนื้อหาที่สร้างขึ้นจากเหล่าแฟน ๆ ผู้ชื่นชอบในสื่อบันเทิงประเภทนั้น เรียกได้ว่าคุณภาพของมันเทียบเท่าได้กับ 'เนื้อหาอย่างเป็นทางการ' ของตัวเจ้าของเรื่องเองที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าแฟนคลับได้เต็มที่อย่างที่ตัวเองต้องการ
ในความคิดเห็นสำหรับผม อาจจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละเรื่อง และแต่ละประเภทของสื่อเหล่านั้น แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'แฟนฟิคชั่น' และ 'แฟนด้อม' ถือว่ามีส่วนเกี่ยวเนื่องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เชื่อว่าถ้าใครก็ตามที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดตามเหล่าศิลปินเอย หรือไม่ว่าจะวงการอะไรใด ๆ เอง ก็ล้วนมักจะเห็นสิ่งเหล่านี้ผ่าน ๆ ตากันจนเปรียบเสมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไป แน่นอนว่าถ้าหากว่ากันตามข้อกฎหมายแล้ว การสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้มันเปรียบได้กับเป็น 'ดาบสองคม' ให้กับตัวของฝั่งเจ้าของเรื่อง รวมไปถึงฝั่งของแฟนคลับ อย่างไรก็ตามเอง ในส่วนของเรื่องเหล่านั้น ผมจะถือเว้นช่องว่างไว้ให้ไปถกเถียงกันเอาเองตามสะดวก :)
If you really find this disturbing, please tell me
I'll add more of them :)
แฟนด้อมนั้นมีด้วยกันอยู่มากมาย และในปัจจุบันมันก็ได้ขยายใหญ่ออกไปกว้างไกลมากกว่าแค่การจำกัดอยู่เพียงแต่ในรูปแบบของหนังสือ
อย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่ข้างต้น สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเพียง 'กระบอกเสียงเล็ก ๆ' ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร อย่างไรก็ตามมันก็ถือเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้สื่อบันเทิงเหล่านั้นยังคงเป็นที่พูดถึงอยู่ในปัจจุบัน
มองในมุมของเหล่านักลงทุนหรือนักธุรกิจ การมีอยู่ของแฟนด้อม ช่วยทำให้มันขับเคลื่อนในเรื่องของผลตอบแทนและจำนวนเม็ดเงินที่ไหลเทเข้ามาได้ดี ตลอดของการที่ผมได้แวะเวียนเข้าไปยังส่วนต่าง ๆ และร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมาย ผมได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า 'แฟนด้อม' ในจำนวนมากมายที่มันมีทั้ง 'ดี' และ 'แย่' ปะปนกันไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชื่อเสียงของแฟนด้อมเหล่านั้นจะดำเนินไปในรูปแบบไหน หากแต่สิ่งที่ทุกคนต่างมีร่วมกันนั่นคือพวกเขาล้วนมีเจตนาในการ 'สนับสนุน' ตัวของผู้สร้างผลงาน อยากที่จะทำความรู้จัก หรืออยากที่จะสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ในรูปแบบการตีความของตัวเอง โดยที่ยังคงเผื่อช่องว่างเพื่อให้แฟนคลับอีกหลาย ๆ คนเข้ามาแสดงความเห็นกันต่าง ๆ นานาในมุมมองที่พวกเขามีต่อสิ่งเหล่านั้น
อาจเรียกได้ว่ามันคือ 'ส่วนฟันเฟืองเล็ก ๆ' ที่ช่วยขับเคลื่อนทำให้สิ่งเหล่านั้นยังคงมีอยู่ได้จนถึงตอนนี้ และมันก็ไม่ได้ถูกลืมเลือนไป แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านมายาวนานแค่ไหนมากก็ตาม
อย่างไรก็ดี ในส่วนของวงการวิดีโอเกมนั้น เมื่อพูดถึงเรื่องของ 'แฟนด้อม' มันอาจจะมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าหากว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มันถูกทำให้กลายเป็น 'กระแสหลัก (Mainstream)' ที่เป็นตัวก่อให้เกิดการทำตามอย่างมากมาย จนหลายครั้งแล้วมันก็ทำให้พวกเราในฐานะของ 'ผู้เล่น (Player)' และ 'ลูกค้า (Customer)' อาจมีความจำเป็นและคิดอย่างถี่ถ้วนสักเล็กน้อยในการที่จะตัดสินใจดำดิ่งเข้าสู่โลกของมัน
และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่การ 'ตัดสิน (Judge)' ใด ๆ
หากแต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับมันให้มากขึ้น
Depends on your opinion to make the decision
But my advice: Enjoy while you can and be conscious of anything
ผมคงไม่ต้องเจาะลึกถึงเรื่องราวของแฟนด้อมในสิ่งต่าง ๆ มากเท่าไหร่ และแน่นอนว่าถ้าจะให้มองมันอย่างในมุมของผู้พยายามอยู่ตรงจุดกึ่งกลางแล้ว นิยามของคำว่า 'ความเป็นพิษ (Toxicity)' ในโลกของแฟนด้อมนั้น อาจอยู่ที่ดุลยพินิจ มุมมอง หรือแม้แต่การถอยออกมาจากจุดเดิมที่ตัวเองเคยเชื่อ
อธิบายอย่างให้เห็นภาพแบบชัดเจนที่สุด 'แฟนด้อม' เปรียบเสมือนกับเมือง ๆ หนึ่ง ซึ่งผู้ที่สร้างหรือเจ้าของเมืองแห่งนั้นอาจเป็นได้ทั้งตัว 'ผู้สร้างผลงาน' หรือ 'ผู้ชื่นชอบในตัวผู้สร้างผลงาน' นั้น แน่นอนว่าการที่จะทำให้เมืองเป็นที่รู้จักหรือมีการขยายพื้นที่ดังกล่าวออกไปได้ บางครั้งมันก็ต้องแลกมากับการทำสิ่งที่นอกเหนือจากเพียงแค่การ 'ตอบสนอง' ต่อเหล่าแฟนคลับที่กระจุกอยู่ในเมืองแห่งนั้น ซึ่งแต่ละคน แต่ละแฟนด้อมอาจจะมีวิธีการในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครสักคนมี 'กึ๋น' มากพอเพื่อที่จะทำให้กลุ่มคนจากด้านนอกเข้ามาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประชากรในเมืองแห่งนั้น
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งของการเป็นแฟนคลับในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจเป็นมุมมองของปัจเจกบุคคลตามอย่างที่พวกเขาคิด เฉกเช่นเดียวกันกับผมก็ถือเป็นหนึ่งในแฟนคลับของ 'แฟนด้อม' หนึ่งเองเช่นกัน เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเหล่าผู้ชื่นชอบในวิดีโอเกม และรู้สึกถึงการได้มีสังคมแม้ว่าสิ่งเหล่านั้นอาจเทียบไม่ได้กับในโลกแห่งความเป็นจริงไปก็ตาม (ซึ่งทั้งสองอย่างอาจแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว และในบางครั้งการพบเจอกับคนในโลกอินเตอร์เน็ต ก็มักจะเต็มไปด้วย ความไม่แน่นอน อยู่ตลอดเวลา)
ยิ่งด้วยกับในยุคสมัยที่อันตรายมันมีอยู่รอบตัวด้วย ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงเลยยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะกับใครก็ตามแต่ การหมั่นสำรวจความคิดของตัวเองพร้อมทั้ง 'ตั้งคำถาม' ถึงสิ่งต่าง ๆ มันยังคงเป็นสิ่งสำคัญและอาจดู 'น่าเบื่อหน่าย' หากว่าคำถามที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันสุดโต่งเหล่านั้นที่ปรากฎขึ้นมันจะทำให้เราต่างเริ่ม หมดศรัทธา ใน ความเป็นมนุษย์ ของเรา
ผู้คนล้วนตัดสิน ตีตรา และโดยมากมักจะ 'ดูถูก' คนที่แตกต่างจากพวกเขา
เราต่างเป็นทั้งสองฝั่ง
ธรรมชาติของการตัดสินนั้นล้วนมีไว้เพื่อแบ่งแยก เพื่อจุดประสงค์ในการทำความเข้าใจความหมายของ 'สิ่งที่มีประโยชน์' และ 'สิ่งที่ไม่มีประโยชน์'
สิ่งที่เป็นอันตราย และ สิ่งที่ไม่เป็นอันตราย
อย่างไรเอง ไม่ว่าสิ่งไหนจะถูกมองผ่านเลนส์สายตาโดยอะไรก็ตาม
คุณค่าของสิ่งเหล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับ 'มุมมอง' ของคุณเองอยู่ดี
:)
ทั้งนี้เอง 'คุณค่า' ของสิ่งเหล่านั้นมันจะมีประโยชน์หรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับว่าเราต้องใช้มัน ณ ตอนเวลาไหน ช่วงเวลาใดที่เราควรจะตัดความคิดอคติทั้งหมดออกไป และหันมาจับมือร่วมกันในการขับเคลื่อนสิ่ง ๆ หนึ่งให้มันไปในทิศทางอย่างที่มันควรจะเป็น
เราอาจไม่ได้เป็นฝ่ายถูกไปเสียทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีใครจำเป็นต้องแบกรับ 'ความผิดบาป' เหล่านั้นเพียงลำพังหรอก ใช่ไหม?
'ความเห็นอกเห็นใจในมนุษย์' ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี มันยังคงเป็นสิ่งสำคัญและย้ำเตือนเรา เฉกเช่นกับประวัติศาสตร์ที่มันได้มีการถูกบันทึกและนำเสนอต่อ ความโสมม (Filthiness) ต่อสิ่งที่พวกเรากระทำต่อกัน ลดทอนความเป็นมนุษย์ (Dehumanized) จนเราสูญสิ้นไปซึ่งมุมมองของความหวัง และหลงเหลือไว้เพียงแต่การดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ และก็พรุ่งนี้...
เรื่องราวเกี่ยวกับแฟนด้อมมันยังคงเกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมากมาย พอ ๆ กับดราม่าในโลกอินเตอร์เน็ตที่มันมีบางอย่างที่ผมเชื่อว่ามันน่าจะมีคนพูดถึงสิ่งเหล่านี้ไปแล้วไม่มากก็น้อย หากแต่ ณ พื้นที่แห่งนี้ เกรงว่าตัวของผมเองอาจไม่ได้พูดถึงส่วนเหล่านั้นมากเกินกว่าที่จะไปเน้นหนักถึง 'จุดมุ่งหมายตั้งต้นเดิม' ที่มันก่อให้เกิดบล็อกเกอร์แห่งนี้ขึ้นมา
บันทึกการเดินทางจะยังคงดำเนินต่อไป
ตราบจนกว่าที่ 'แสงสุดท้าย' จะมอดดับ
🙏🙏🙏🍔🍔🍔🙏🙏🙏
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น