ตัวตนของจิตไร้สำนึก และความบังเอิญที่น่าอัศจรรย์ใจ


My mind: 😊

My soul: 🤬

My body: 💢

เรายังคงอยู่กับในหัวข้อของสัพเพเหระเช่นเดิม เพิ่มเติมไปหน่อยคือนานวันเข้า ผมเริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลงใหลอยู่กับการได้ละเลงตัวอักษรลงไปในหน้ากระดาษอันว่างเปล่านี้ และย้อนกลับไปอ่านถึงสิ่งเก่า ๆ ที่ตัวผมเองได้เขียนมันลงไป

เรื่องราวของประเด็นในเรื่องนี้ มันอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร หากเพียงแต่มันเกิดขึ้นจากการที่ผมได้อ่านหนังสือเล่ม ๆ หนึ่ง และได้ค้นพบถึงความมหัศจรรย์บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ 'จิตใจ' ของมนุษย์เป็นส่วนสำคัญ

ซึ่งมันถูกเรียกว่า 'จิตไร้สำนึก (Unconscious Mind)'


Ah, another 'part' in me.

โดยที่ผมจะขอข้ามในส่วนของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือด้านของจิตวิทยาไป อันเนื่องมาจากผมไม่ได้มีความรู้ที่มากเพียงพอ ประกอบกับเนื่องด้วยครั้นจะนำเอาสิ่งที่มันเป็นวิชาการเข้ามา เกรงว่าคุณอาจคงมาหาผิดที่ได้แล้ว

ทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องของ 'จิตไร้สำนึก' ฟังดูแล้วอาจแตกต่างไปจากเจ้าคำว่า 'จิตใต้สำนึก' ไปเสียหน่อย ทว่าเพื่อที่จะแยกเจ้าสองอย่างนี้ออกจากกัน ผมอยากจะขอให้นึกถึงเรื่องราวของการที่เรากำลัง 'ฝัน' หรือเพื่อให้เห็นภาพมากกว่านั้นผมจะขอเรียกเจ้าสิ่ง ๆ นั้นว่า 'ความคิดแทรกซ้อน (Intrusive Thoughts)' ที่มันอยู่ขั้นกลางระหว่างทั้งสองอย่าง

ความคิดแทรกซ้อน ตามความหมายของมันแล้วหมายถึงความคิดอันไม่พึงประสงค์ เกิดขึ้นจากอะไรไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่ชัด ทว่ามันมีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องไปกับอาการ 'ย้ำคิดย้ำทำ' ซึ่งอย่างไรก็ดีเอง เจ้าความคิดเช่นนี้โดยมากล้วนจะสื่อถึงความหมายในทางที่ย่ำแย่ ต่างกันกับเจ้าตัวของ 'จิตไร้สำนึก' ที่มันมีรูปแบบประหนึ่งว่ามันอาจเป็น 'ลางสังหรณ์' หรือ 'สัญชาตญาณ' บางอย่างที่เราไม่รู้ตัว

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ผมดูเหมือนสนใจเรื่อง ๆ นี้ ทว่าเมื่อผมลองหันมาสัมผัสมองตัวเองในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายครั้งแล้วผมกลับรู้สึกว่าเจ้าสิ่งที่มันเป็น 'จิตไร้สำนึก' ของผมกลับดูเหมือนกำลังเข้าควบคุมร่างกายของผมอยู่ ในการที่มันบังคับให้ตัวผมพยายามเคาะนิ้วลงไปบนแป้นคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์บางสิ่งบางอย่างลงไป (ซึ่งผมกำลังหมายถึงสิ่งที่คุณกำลังอ่านอยู่นี่แหละ)

'จิตไร้สำนึก' ไม่มีตัวตนที่ชัดเจน และไม่มีการปรากฎตัวออกมาให้เห็นเหมือนกับเป็น 'ภาพหลอน' ทว่ามันกลับสิงสถิยต์อยู่ในตัวของพวกเราทุกคน โดยหลัก ๆ มันเปรียบเสมือนการแสดงออกถึงความต้องการที่อยู่เบื้องลึกของสิ่งที่เรา 'พยายาม' ปฏิเสธพวกมัน หากเปรียบได้กับตัวละครในวิดีโอเกม มันเสมือนเป็น 'บอสใหญ่' ที่ชักจูงให้เราในฐานะของตัวเอก ทำหน้าที่ในการนำพาเพื่อให้ เขา/เธอ ไปยังสิ่งที่ต้องการ โดยนั่นอาจเป็นได้ทั้งเป้าหมายที่ 'ระบบเกม (สังคม)' กำหนดขึ้นมา หรือไม่ก็เป็นไปดั่งตามที่ตัวของ 'ผู้เล่น (เรา)' ผู้ที่กำลังควบคุมในการทำให้ตัวเอกได้พบเจอและพิชิตเป้าหมายตามที่ 'ระบบเกม' ต้องการให้ทำ

อย่างไรก็ดี มันก็ไม่ใช่ทุกเกมที่ตัวของเจ้าระบบเกมนั้นจะกำหนด 'ภารกิจ (เป้าหมาย)' ขึ้นมา


หากว่ากันจริง ๆ แล้ว สิ่งที่เรียกว่า 'ภารกิจ' กลับดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคลไปมากกว่าที่มันจะเป็นสิ่งที่ 'ระบบเกม' กำหนดขึ้นมา เคยไหมที่รู้สึกว่าการพยายามเพื่อไล่ตามเก็บ 'แอคชีฟเมนท์ (ความสำเร็จ)' ในวิดีโอเกมนั้นเป็นสิ่งที่ยากและท้าทายเกินไป หากแต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่เราได้กลับมากลับเป็นสิ่งที่เรียกว่า 'ไอเทม (ของตอบแทน, ของรางวัล)' ที่มันกลับมีมูลค่าสูงมากเสียจนเราเอื้อมไม่ถึง ว่ากันตามตรงแล้ว เจ้าสิ่งที่มันเป็นไอเท็มนั้นดูจะเป็นสิ่งที่ 'ล่อตาล่อใจ' มากเสียกว่าเรื่องของการทำให้ถึงตาม 'ภารกิจ' ที่วิดีโอเกมมันได้กำหนดไว้ มากกว่าที่จะให้ผู้เล่นได้ใช้เวลาสนุกไปกับมันจนถึง 'ฉากจบ' ของเกม

บางครั้ง เรากลับรู้สึกกับการได้ไอเทมในสิ่งที่ตัวเองต้องการ มากกว่าที่จะต้องการไปให้ถึงใน 'เป้าหมาย' แต่ละครั้ง

และแม้ว่าต่อให้เมื่อเราไปถึงเจ้าเป้าหมายนั้นแล้วก็จริง แต่ในท้ายที่สุด เรากลับค้นพบว่ามันช่างว่างเปล่าเสียเกินกว่าที่ตัวเราเองจะพยายามเล่นไปให้ถึง ณ จุดนั้น

ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาสักเมื่อ 2014 หรือในช่วงก่อนที่ผมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปทีละนิด หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ผมเคยวางเอาไว้ มันคือการที่ผมตั้งใจในการวางแผนเกี่ยวกับการพัฒนางานเขียนของตัวเอง และใฝ่ฝันในการต้องการที่อยากเห็นมันได้รับในการตีพิมพ์มาก่อน (แน่นอนว่าถึงตอนนี้ งานชิ้น ๆ นั้นยังอยู่)

เคยที่จะส่งประกวดผลงานเข้าไปประมาณหนึ่งหรือสองครั้ง

เคยในการที่อยากเขียนเรื่องราวที่มันอยู่นอกเหนือไปจากเรื่องราวดั้งเดิมที่ตัวเองแต่ง และแม้ว่าผมตัดสินใจในการพับงาน ๆ นั่นทิ้งไปแล้ว ถึงกระนั้นการหันไปอ่านเรื่องราวของมันกลับทำให้ผมพึงตระหนักได้ถึงการที่ตัวผมเองมีศักยภาพมากพอในการทำให้ผมมี 'ความมั่นใจในตัวเอง (Self-Esteem)' เพิ่มมากขึ้นในแง่ของการสร้างสรรค์ผลงานเขียน

ถ้าไม่นับไปถึงการที่ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว ผมยังง่วนกับเรื่องราวของการสวมบทบาทมากเกินความจำเป็นไปหน่อย (ขอโทษด้วย นั่นเองก็เป็นสิ่งที่ 'ระบบเกม' มันวางเอาไว้นะ! >:v)

ทว่าสิ่งหนึ่งที่มันมีส่วนหล่อหลอมตัวผมมาจนทุกวันนี้ ก็คงต้องขอกล่าวชมและ 'ขอบคุณ' ตัวเองที่ ณ เวลานั้นที่ได้ตั้งใจในการใช้ระยะเวลาไปกับการสร้างสรรค์ผลงานที่ยังไม่ถูกปล่อยออกมา

Silly 404

ความเป็นจริงเองแล้ว ผมยังมีผลงานสร้างสรรค์ก่อนหน้านี้อยู่ และหากเท่าที่ยังพอขุดคุ้ยได้อยู่ โดยมากมักจะเป็นพวกงานศิลป์ที่เคยวาดเมื่อนานมาแล้วเห็นจะได้ ทว่าส่วนใหญ่เองมันกลับเป็นภาพที่ผมเคยทำเอาไว้ตอนสมัยช่วงก่อนหน้านี้ที่โน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าของผมเองมันจะ 'จากลา' โลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ



นั่นคงเป็นทั้งหมดสำหรับโพสต์นี้ ในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอะไรนั้น แน่นอนว่าทุกอย่างมันก็เป็นเรื่องของ 'อนาคต' อยู่ดี

ไว้เจอกันใหม่ เมื่อเวลานั้นมาถึง...




ความคิดเห็น