[บอกเล่าประสบการณ์] ไร้เหตุผลและไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน ความซับซ้อนที่ไม่อาจค้นหาคำตอบได้ชัดเจน และปัญหาทางเทคนิคนับอนันต์ (Earth: The Game)
*เนื่องจากแพทช์ปัจจุบันมีการอัปเดตไปไกล + เวอร์ชั่นเก่าไม่สามารถหาเล่นได้ ฉะนั้นสามารถบอกได้แค่สิ่งที่ทางผู้เขียนเจอมาเท่านั้น*
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตราบตั้งแต่ที่ผมได้คลุกคลีถึงการพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ ๆ ของเกม ๆ หนึ่งมาอย่างช้านาน ผมกลับได้ค้นพบถึงเกม ๆ หนึ่งที่ตัวมันค่อนข้างจะ 'หาคำอธิบาย' ได้ยากเสียหน่อย
และแน่นอนว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ฟังแล้วไม่อาจหาคำตอบอะไรได้เลยสักนิดเดียว...
Earth: The Game
ผมคงไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้สำหรับเกมนี้มากเสียเท่าไหร่ ทว่าหากจะให้เจาะไปถึงยังเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของมันแล้ว อาจจะต้องปูไปยังนับตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนที่ตัวเกมจะเปิดให้ได้เล่นกันเมื่อครั้งที่มีการเพิ่ม 'เผ่าพันธุ์ใหม่' เข้ามาเสียหน่อย
อย่างแรก ครั้งแรกสำหรับการที่ผมเล่นเกม ๆ นี้คงน่าจะตั้งแต่ช่วงหลักทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว ณ เวลาช่วงนั้นมันค่อนข้างเป็นอะไรที่หนักหน่วงพอสมควร เพราะความที่ระบบการ 'สุ่ม' ของมันไม่ได้มีอะไรที่ตายตัว นอกจากขึ้นอยู่กับในค่าสถานะ 'โชคลาง (Luck)' ที่ตัวมันเองก็ไม่ได้มีการอธิบายอย่างชัดเจนมากไปอีก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหัวเสียพอสมควร
การพยายามทำความเข้าใจถึงมันยากพอ ๆ กับส่วนของสิ่งที่เรียกว่า 'เกมเพลย์' ที่ผมคงไม่สามารถพูดถึงมันได้อย่างเต็มปากไปอีก ที่จริงคือ ณ ส่วนนี้ถือได้ว่าหลายครั้งมันมีบางจุดไปจริง ๆ ที่มันได้เปลี่ยน 'เส้นเรื่อง (Story)' ไปตามแต่ที่เราคิดและตัดสินใจ เป็นได้ว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อ NPC รอบตัวผม และมันส่งผลต่อการทำให้ผมได้รับค่าสถานะที่เรียกว่า 'ดีบัฟ (Debuff)' ในด้านการป้องกันทางเวทมนตร์และกายภาพ หากแต่สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาเป็นของแถมคือผมเริ่มมองเห็น 'เป้าหมาย' ในการเล่นเกม ๆ นี้มากขึ้น
อย่างไรเอง มันก็ไม่ใช่ 'จุดจบของเกม' ที่มันได้มอบให้อยู่ดี
ความซับซ้อนที่เข้าใจได้ยาก
กราฟฟิกที่สมจริงเกินไป
และมันไม่ใช่ 'เกมฟรี' ที่ใครก็อยากจะเล่น
กว่าบรรดาวิดีโอเกมนับจำนวนอนันต์ ที่จริงแล้วนั่นแทบจะเรียกว่ามันเป็น 'เกม' เลยไม่ได้ด้วยซ้ำ กลับกันผมอาจต้องเรียกได้ว่าที่ผ่านมาจริง ๆ เรากำลังเล่นในสิ่งที่มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เราหลงคิดว่ามันคือ 'เกม' ไปจริง ๆ แม้ว่าเราจะทุ่มเทในการสร้างมันเป็นระยะเวลากว่าช้านานก็ตามเอง
ยิ่งไม่ต้องพูดไปถึงสิ่งที่เรียกว่า 'เรื่องเล่า' หรือแม้แต่กับบรรยากาศของเกมไปอีก ซึ่งหลายครั้งมันเปลี่ยนแปลงไปตามแต่แนวทางการเล่นของแต่ละคน
อย่างไรเองก็ตาม ผมคงจะขอพูดรวม ๆ แบบสรุปความเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับ Earth: The Game ให้ได้มากที่สุด เท่าที่พอเป็นไปได้ เพื่อไม่ให้เกิดความงุนงงและสับสนร่วมกัน
หนึ่ง เกมนี้ไม่มีระบบเซฟ ไม่มีเช็คพอยท์ และมันก็ไม่สามารถที่จะสามารถแยก Slot ในการเซฟเกมได้ เมื่อเกมมันดำเนินไปแล้ว เท่ากับว่าโอกาสที่จะหยุดเล่นมันนั้นก็เป็นเรื่องยาก ถ้าไม่นับไปถึงเรื่องที่ว่ามันมีผู้เล่นส่วนหนึ่งพยายามจะทำ 'สปีดรัน (Speedrun)' เกมนี้ด้วยการกระทำห่าม ๆ บางอย่างจนพาพวกเขาไปสู่ Game Over อย่างรวดเร็ว
สอง ไม่มีระบบไกด์วิธีการเล่น ตลอดของการพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับไกด์ของเกมนี้ มันเปลี่ยนไปตามแต่ที่มีการอัปเดตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงระยะแรกเหมือนว่ามันจะไม่ได้ถี่สักเท่าไหร่ หากแต่ 'ไกด์' สำหรับเกมนี้มันคือสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปมาได้ตลอดเวลาเสมอ และยิ่งกับการที่มันไม่ได้สร้างขึ้นเพียงแค่ผู้เล่นคน ๆ เดียวด้วย เท่ากับว่า 'ไกด์' บางอย่างก็ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนอีกต่างหาก
และอย่างสุดท้าย... ระดับความยากของเกม หรือแม้แต่ระบบใด ๆ ก็ตามที่มันถูกสร้างขึ้น ล้วนเป็นผลพวงจากการอัปเดตที่มันได้ต่อยอดมาจากข้อที่สอง...
ประสบการณ์สำหรับการเล่นเกมนี้ ถ้าจะให้ผมสรุปแบบง่าย ๆ เองแล้ว คงอาจบอกว่ามันค่อนข้างเป็นอะไรที่ 'ปัจเจก' ไปเสียหน่อย แม้ว่า ณ ปัจจุบันมันจะเริ่มมีการปรับระดับความยากลงมาแล้วก็ตาม (หากว่าคุณไม่ไปแตะต้องระบบ Social System หรือว่า 'แชทโลก (World Chat)' อ่ะนะ)
แก่นหลักของเกมนี้เองก็ถือว่าค่อนข้างชวนให้เล่นต่อไปเรื่อย ๆ พอสมควร
Goodbye, doesn't mean forever.
แต่ถึงอย่างนั้น เฉกเช่นกับอีกหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา ทว่าสำหรับเกม Earth: The Game เรื่องหนึ่งที่ผมคงสามารถพูดได้จริง ๆ คือมันเป็นเกมที่เล่นกันหลายคน และตัวเกมมันจะดำเนินไปข้างหน้าได้ต่อไปตราบว่า 'ผู้เล่น (Players)' ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พยายามทำความเข้าใจและเคารพซึ่งสิทธิ์ หมายรวมไปแม้แต่การพยายามปรับปรุงในด้าน Quality of Life (QoL) ของเกมเพื่อเชิญให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ สามารถเข้ามาร่วมเล่นกันได้อีก
ซึ่งโดยมากสิ่ง ๆ นี้มักจะเกิดขึ้น หลังจากที่เซิร์ฟเวอร์มีการ Wipe Out ไม่ก็มี Major Event สำคัญ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งเซิร์ฟไปร่วมกัน บางอย่างส่งผลทำให้จำนวนผู้เล่นลดลงไป แต่บางส่วนเองก็ได้ก่อให้เกิด 'ดีบัฟ (Debuff)' แบบใหม่ ๆ ที่ไล่ระดับความรุนแรงไปตั้งแต่ชั่วคราวยันติดถาวร
อ้อ ใช่! ผมคงลืมพูดไปถึงว่าด้วยเรื่องของค่าเงินในเกมด้วย ตรงนี้มันเองคงพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่ 'ยากเกินแก่' จะอธิบายไปหน่อย
ระบบหลายอย่างที่ไม่เสถียร ความซับซ้อนในเกมการเล่นที่ไม่สามารถมองหาหนทางแก้ไขได้ นั่นยังไม่นับรวมไปถึงสิ่งที่เรียกว่า 'บั๊ค (Bug)' ของเกมอาจก่อให้เกิดการ 'แครช (Crash)' จนไม่สามารถกลับไปเล่นใหม่ได้อีก แปลว่าโอกาสที่จะสามารถเล่นเกมนี้ได้แบบไหลลื่นจริง ๆ คงหนีไม่พ้นการพยายามมองหา 'ช่องโหว่ (Glitches)' ของเกมเพื่อใช้ประโยชน์ทำให้เกมมันดำเนินไปได้อีกต่างหาก
แน่นอนว่าเจ้าสิ่ง ๆ นี้ มันเปรียบได้กับ 'ดาบสองคม' และอย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่ข้างต้น
การกระทำใด ๆ ก็ตามเกี่ยวกับตัวเกมนั้น 'ล้วน' ส่งผลกระทบแทบทั้งหมด
หากแต่ความร้ายแรงของมันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะให้ความสำคัญกับมันมากแค่ไหน
มากเกินไป ก็อาจทำให้ตัวคุณติดสถานะ Debuff ที่เรียกว่า 'รู้สึกผิด (Guilt)'
น้อยเกินไป ก็ได้รับสถานะ Buff ติดตัว ที่เรียกว่า 'เขลา (Ignorant)' หรือ 'หน้าหนา (Shameless)'
สถานะของเกมนี้เรียกได้ว่ามันมีจำนวนเยอะทัดเทียมได้กับระบบค่าสถานะพื้นฐานในวิดีโอเกมทั่วไป เว้นแต่การจะได้รับซึ่งสถานะเหล่านี้มา อาจต้องแลกมาด้วยการต้องรับมือกับพวกศัตรูในหลากหลายรูปแบบเสียหน่อย โดยมากมักอยู่ในคราบของสิ่งที่เราไม่รู้
หากแต่ใด ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราควรจะเลิกเล่นเกมนี้ต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น