[Morning Thoughts] ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และการผันแปรของเทรนด์โลกของสิ่งบันเทิงในยุคปี 2024

 

Good Morning, Survivors.

อาจเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับช่วงเวลาของการที่ผมได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่ผมรักและชอบทำมากที่สุด ซึ่งนั่นคงหนีไม่พ้นการได้ 'ทบทวนตัวเอง' ภายหลังจากผ่านพ้นช่วงยามราตรีที่ตัวเองได้หลับใหลลงไปพร้อมกับความรู้สึกที่กักเก็บไว้ในใจ ไม่ปล่อยให้มันได้เล็ดลอดหลุดออกมา

และสำหรับในวันนี้ ผมคงไม่มีหัวข้อสำหรับการพูดคุยอะไร นอกจากเพียงแค่อยากเขียนสิ่งนี้ไว้สำหรับทักทายตัวผมเองในอนาคตข้างหน้า เพื่อบอกให้ 'เขา' รู้ว่าช่วงเวลาของ ณ ตอนที่เขากำลังประสบกับปัญหา 'ความกังวลก่อนถึงช่วงผู้ใหญ่ตอนปลาย' ของเขานั้นกำลังจะถูกผลัดเปลี่ยนไปยังตอนที่เขาได้ทำบางสิ่งบางอย่างหล่นหายไป


Yes, it's supra, ha! get it?

อาจต้องขอเตือนสักเล็กน้อยว่าสำหรับบล็อกโพสต์นี้ อาจมีการรำพึงรำพันเสียมากเกินไปหน่อย และนั่นหมายความว่ามันจะมีบางจุดที่มันหา 'สาระ' ไม่ค่อยได้เสีย นอกจากเพียงแค่ว่าผมอยากจะเล่ามันออกมาแบบที่ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งนั่นหมายถึงผมอาจหยิบยกเอา 'แนวคิด' บางส่วนจาก 'ปรัชญา' ว่าด้วยเรื่องราวของการกลิ้งหินขึ้นสู่ยอดภูเขา ก่อนที่จะปล่อยให้มันตกลงมาสู่เบื้องล่าง เพื่อที่เราจะได้เข็นมันขึ้นไปอีกครั้ง

'ความสุข' ที่พ่วงมาพร้อมกับ 'ความลำบากยากเข็ญ' ที่เราทุกคนต่างเผชิญกับมันอยู่เสมอในทุก ๆ วัน

'ซิซิฟัส (Sisyphus)' คือชื่อของหนึ่งในพระราชาคนหนึ่ง ผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายอันแยบยล ไม่หวั่นเกรงแม้แต่กระทั่งอำนาจขององค์เทพที่อยู่สูงเหนือกว่าตัวของเขา

วีรกรรมของเขาถือว่าเป็นอะไรที่สุดในด้านของการลวงหลอกเหล่าองค์เทพ ชนิดที่ว่าแม้แต่กระทั่งการได้ลงไปสู่ห้วงแห่งนรก ได้พบกับเทพแห่งความตายตรงหน้า หากแต่เขาเองกลับซ่อนแผนการในการปั่นป่วนทำให้องค์เทพผู้อยู่จุดสูงสุดในการควบคุมทุกอย่างนั้นยังหลงกลเข้าให้แบบเต็มเปา จนในท้ายที่สุดทั้งสองก็ไม่อาจทนรับได้ต่อการถูกหลอกลวงอันเจ็บแสบของสิ่งที่เขาได้พึงกระทำ และนั่นทำให้ 'เฮดีส (Hades)' ตัดสินใจที่จะทำการลงโทษเขาในยมโลก ด้วยการเข็นหินก้อนใหญ่ขึ้นภูเขา ก่อนจะปล่อยลงมาให้ทับร่างของเขา แล้วก็กลิ้งมันขึ้นไปอีกครั้งเพื่อทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำไปซ้ำมาชนิดที่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะจบลงตรงจุดไหน


Suffering, Death, Rinse and Repeat

รายละเอียดของชายผู้นี้สามารถหาอ่านและติดตามได้ผ่านหลากหลายช่องทาง หากแต่ทั้งนี้ผมอาจต้องบอกว่าสิ่งที่ผมเขียนบอกเล่ามานั้นเป็นแค่ส่วนของ 'การสรุปความ' ที่มันอาจมีรายละเอียดบางอย่างขาดหายไป แต่ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจว่าตำนานของชายผู้กลิ้งหินขึ้นสู่ภูเขา ก่อนจะปล่อยลงมาทับร่างของตัวเองอีกครั้ง นั่นทำให้ผมรู้สึกได้ว่ามันเปรียบดั่งได้กับ 'ชีวิตของมนุษย์' ที่เราต้องเผชิญกับมันอยู่บ่อยครั้ง

แง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของตำนานกรีกโบราณ หากไม่นับตัวละครหลักอย่างเทพผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่งอย่าง 'ซูส (Zeus)' เห็นทีแล้วผมคงจะเล่าถึงเรื่องราวคร่าว ๆ ก่อนหน้านั้นที่เหล่าองค์เทพจะถือกำเนิดขึ้นมาคงเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก 'ความว่างเปล่าอันดำมืด' ที่มันมีศัพท์เรียกอย่างสวยหรูว่า 'เคออส (Chaos, Khaos)'

สิ่งที่เรียกว่า 'เคออส' คือจุดแรกเริ่มของความยุ่งเหยิงอันไร้ระเบียบที่กระจัดกระจายออกไป รูปแบบของมันฟังดูคล้ายคลึงกับสิ่งที่อยู่ในจักรวาลเราซึ่งถูกเรียกว่า 'สสารมืด (Dark Matter)' ซึ่งอาจมีการตั้งชื่อเรียกในหลากหลายแบบแตกต่างกันไปตามแต่ละศาสตร์ความรู้ของแต่ละคน หากแต่สำหรับในตำนานเทพปกรณัมกรีกแล้วนั้น 'เคออส' ถือได้ว่ามันคือสิ่งแรกเริ่มของจุดเริ่มต้นก่อนการถือกำเนิดของโลก และมันคือสิ่งที่แยกพื้นที่ระหว่าง 'โลก (Earth)' กับ 'ท้องฟ้า (Sky)' เอาไว้

ความหมายของมันคือการอยู่คั่นกลางของสองสิ่ง และแน่นอนว่าตัวมันเองอาจเปรียบได้ดั่งกับคือ 'สสารบนอวกาศ' ที่ได้คั่นกลางระหว่างกาแล็กซี่ ระบบสุริยะ และหมายรวมไปถึงสิ่งที่มันอยู่เหนือขอบเขตเกินกว่าความเข้าใจของเราได้เป็นจำนวนมาก

ทั้งหมดคือจินตนาการที่ยากจะพิสูจน์ออกมาให้เห็นเป็น 'รูปธรรม' อันชัดเจน ทว่ามันกลับคือหนึ่งในความรู้เชิงทฤษฎีที่มันชวนหวนให้เราได้ลองมานั่งคิดและตั้งคำถามเล่น ๆ ว่า 'จุดสิ้นสุดของเอกภพนั้นอยู่ที่ไหน'




หลักความรู้เรื่องของ 'ดาราศาสตร์' และ 'วิทยาศาสตร์' คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากหลักของวิชาปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องของการตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่มันก่อกำเนิดขึ้นมาในจำนวนมากมาย และมันเองก็ได้แตกแขนงไปยังอีกหลายสาขาความรู้ที่ต่อมามันได้ถูกพัฒนาขึ้นตามความก้าวหน้าของสติปัญญามนุษย์ หลายสิ่งหลายอย่างมากมายมันล้วนมี 'โครงสร้างพื้นฐาน' จากการตั้งคำถาม (ที่ขึ้นอยู่กับประเภทของคำถาม ๆ นั้น) ของมันว่าคุณอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และแน่นอนว่าหลายครั้งแล้วสิ่งที่เรียกว่า 'คำตอบ (Answer)' ของคำถามที่คุณสงสัย ก็อาจอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด

เหมือนอย่างเฉกเช่นกับ 'สื่อบันเทิง' ในยุคปี 2024 ที่ 'กระแส (Trending)' มันได้โผล่ขึ้นมาตามสิ่งที่เราให้ความสนใจ ซึ่งหลาย ๆ ครั้งสิ่งเหล่านี้มันก็มีหลากหลายชนิด หลากหลายรูปแบบ หลากหลายรสนิยมตามแต่ที่ผู้คนในแต่ละยุคสมัยให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งยวด

ผมเคยพูดแง้ม ๆ ไปถึงเรื่องนี้ไปแล้วเกี่ยวกับว่าด้วยเรื่องราวของโลกอินเตอร์เน็ตที่มันเองเกิดขึ้นมาจากกลุ่มบุคคลผู้ไม่ระบุตัวตนของตัวเอง นั่นหมายความว่าการจะมองหาถึง 'ต้นตอที่แท้จริง' ของมันเองนั้นคือสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ใครจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเข้ามาถึงโลกออนไลน์ ทว่าอาจเป็นเพียง 'การละเล่น (Game)' ของผู้คนสมัยอดีตกาลที่มันแฝงไว้ซึ่งแนวคิดและมุมมองทางการเมืองอันแยบยล แสดงให้เห็นถึงการ 'วิพากษ์วิจารณ์' เหล่าผู้อยู่เบื้องสูงให้รู้สึกเจ็บแสบ ๆ เล่น ๆ

น่าเสียดายที่ผมคงไม่อาจพูดถึงเรื่องตรงนี้ได้เยอะ แต่ถึงกระนั้นเชื่อว่าหากใครที่ยังโลดแล่นอยู่ในสถานที่ ๆ เรียกว่า 'อินเตอร์เน็ต (Internet)' อยู่ ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่เรากำลังอาศัยอยู่ว่าตอนนี้มันกำลังเป็นเช่นไร และตัวผมคงไม่ได้คาดหวังถึงว่าใครหรืออะไรจะขึ้นมาพัฒนาชีวิตของพวกเราให้ดี มากเสียกว่าที่เราต่างคาดหวังถึง 'การเปลี่ยนแปลง' ไปในทิศทางที่มันอยู่ในที่ ๆ ควรอยู่และควรเป็น


ยินดีต้อนรับสู่ โลกาภิวัตน์ (Globalization)

และสวัสดียามเช้า 


เหล่าผู้มีชีวิตรอดทุกคน

ความคิดเห็น