The Internet makes you stupid.

 




'จงเสพสมห้วงอารมณ์ หลงใหลซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ หาใช่เพียงหันเหไปในสิ่งที่ 'สังคม' ให้ความสนใจ'

ผมชื่นชอบในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้คน พร้อมกับการ Surfing the internet (ท่องโลกอินเตอร์เน็ต) ไปตามประสาของผู้ที่เวลากว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตคลุกคลีอยู่ในโลกดังกล่าวเป็นระยะเวลานานนับตั้งแต่การมาถึงของมัน จวบจนกระทั่งได้เห็นวันที่มันเข้ามากลายเป็น 'ส่วนหนึ่ง' ของชีวิตเราไปโดยอย่างปริยาย

สำหรับผมแล้ว ของพวกนี้ถือเป็น 'วัตถุดิบชั้นดี' ในการรังสรรค์ผลงานของตัวเองออกมา แม้ ณ ช่วงเวลานี้มันอาจจะไม่ได้ 'สม่ำเสมอ' เท่ากับเมื่อครั้งก่อนหน้าที่ตัวผมยังเป็นเพียง 'เด็กหนุ่มผู้อ่อนต่อโลก' หากแต่บัดนี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า (หรืออาจต้องเรียกว่าอีก 12 ชั่วโมง) นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังจะได้ 'เติบโต' ขึ้นอีกครั้ง

'การเติบโต' ความหมายของมันที่ผมอาจมองไม่เห็นมัน ณ ช่วงเวลายามเด็กวัยรุ่น แต่กลับมีความหมายมากมายอันเหลือล้น เมื่อเริ่มมองเห็นถึง 'ความเปลี่ยนแปลง' ในตัวเองที่มันอาจทำให้ผมเริ่มคิดมากขึ้น ตระหนักรู้มากขึ้น พร้อมกันนั้นยังได้เปิดรับเรื่องราว 'ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ' ที่สิ่งนั้นอาจถือเป็น 'จุดเปลี่ยน' ในช่วงชีวิตของผมไปเลยตลอดกาล

ทว่าก่อนที่ผมจะพูดถึงเรื่องนั้น ผมอาจจะขอพูดอะไรสักหน่อย เกี่ยวกับเรื่อง ๆ หนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้

Rule of the Internet (กฎของโลกอินเตอร์เน็ต)




หากใครก็ตามที่เกิดในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 - ค.ศ. 2000 ขึ้นไป ผมเชื่อว่าพวกคุณเองคงคุ้นเคยดีกับเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกที่การเข้าถึง 'อินเตอร์เน็ต' นั้นยังถือเป็นสิ่งที่ถูกจำกัดไว้เฉพาะกับผู้มีฐานะทางสังคมและมีเงินในระดับหนึ่ง

แนวโน้มของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต เพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ ปี และแน่นอนว่าด้วยความแพร่หลายของมันจึงเลยทำให้ไม่แปลกที่จะเกิดการสร้างสรรค์ 'คอนเทนต์ (Content)' จำนวนมากมายไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งหากใครยังไม่ทราบว่าคอนเทนต์มากมายที่ว่านั้นมีอะไร และหมายถึงอะไรบ้าง แน่นอนว่าผมคงแนะนำให้คุณเริ่มจากการค้นหาของสิ่งที่เรียกว่า 'เว็บบอร์ด' เป็นอย่างแรก (เหมือนกับที่ผมเคยพูดในบล็อคของตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว)

กฎของโลกอินเตอร์เน็ต คือสิ่งสมมุติที่แรกเริ่มพื้นฐานมันมาจากเว็บบอร์ดไม่ระบุตัวตนที่เรียกว่า 4Chan กล่าวกันว่าสถานที่ดังกล่าวเปรียบได้กับคือ 'โลกไร้กฎเกณฑ์ ไร้ระเบียบ และป่าเถื่อนเกินกว่าที่จะมีผู้อยู่อาศัยจริง ๆ จัง ๆ' แน่นอนว่ามันแตกต่างจากสิ่งที่เรียกว่า Community Webboard อย่างชัดเจน (ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Pramool.com , Pantip เป็นต้น)

สองตัวอย่างเว็บไซต์ที่ผมระบุมา แม้จะดูเหมือนเป็นเว็บบอร์ดทั่วไป หากแต่มันเองยังมีสิ่งที่เรียกว่า 'กฎเกณฑ์' พอระบุให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ถึงสิ่งที่ 'ควร' และ 'ไม่ควร' กระทำ ซึ่งผมคงอาจเก็บไว้เป็นหัวข้อในการพูดถึงเรื่องนี้ในครั้งถัดไป

Rule of the Internet มีตัวตนอยู่มาอย่างช้านาน อาจนานกว่าที่ผมรู้ถึงการมีอยู่ หรือไม่ก็ก่อนผมเกิดขึ้นลืมตาดูโลก ทว่าไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม กฎเกณฑ์ของโลกอินเตอร์เน็ตนั้น มันได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ไปตลอดกาล และสำหรับเหล่านักท่องเว็บไซต์แล้ว กฎเหล่านี้ถือเป็น 'ธรรมเนียมการปฏิบัติ' ที่สามารถรับรู้กันได้เป็นอย่างดีโดยไม่จำเป็นต้องมีใครสอน

จวบจนกระทั่งการมาของ 'โซเชียลมีเดีย (Social Media)' ที่มันเองได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานของพวกเราไป

อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญเกี่ยวกับกฎของโลกอินเตอร์เน็ตนั้นยังคงอยู่ และไม่มีทางที่มันจะจางหายไปไหน



โลกแห่งนี้เมื่อคุณได้ย่างกรายเข้ามา ข้อแรกสำคัญที่คุณควรรู้ไว้เสมอนั่นคือ 'จงปิดบังชื่อและตัวตนของตัวเอง (Be Anonymous)'

ไม่สำคัญว่าโลกแห่งความจริงคุณจะเป็นใครมาจากไหน จงรับรู้ไว้อยู่เสมอว่าการปิดบังชื่อและตัวตน คือกฎเหล็กของการท่องโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าคุณจะไปอยู่หนแห่งใด ไม่ว่าต่อให้ช่วงเวลานั้นที่ ๆ คุณไปจะเต็มไปด้วย 'เปลวเพลิงความร้อนแรง' และ 'ความขัดแย้งอันสุดขั้ว' จงเรียนรู้ไว้เสมอว่า 'ห้ามเปิดเผยตัวเอง'

(อาจใช้ได้ในทุกกรณี เว้นเพียงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินหรือกิจกรรมที่ต้องแสดงตัวตนเพื่อเปิดเผย 'ข้อมูลส่วนบุคคล' ที่โอกาสในการรั่วไหลของมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา...)

เหล่านักท่องเว็บไซต์ รับรู้ข้อนี้ของตัวเองกันเป็นอย่างดี เฉกเช่นเดียวกับตอนเมื่อเวลาที่พวกเขาเปิดโซเชียลมีเดียของตัวเองออกมาและ 'พ่น' บางอย่างที่บางทีตัวพวกเขาเองอาจไม่ได้ตระหนักถึง 'ผลของการกระทำ' ของตัวเอง...

โลกของอินเตอร์เน็ตโดยเนื้อแท้ คือโลกไร้ระเบียบและกฎเกณฑ์ ข้อจำกัดของมันส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า Search Engine ที่ส่วนมากมักจะเปิดเผยข้อมูลที่มันเป็นสาธารณะ แน่นอนว่าคุณคงไม่ต้องแปลกใจหากสังเกตดี ๆ ว่าหลายครั้งคุณจะได้เจอกับสิ่งที่ 'ทำซ้ำ' หรือ 'คัดลอก' กันไปมา เพราะแน่นอนว่าการมองหาถึงความเป็น 'ต้นฉบับ (Original Content)' คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งนี้

และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสิ่งที่ปรากฎทั้งหมด มันเป็นเพียงแค่ 'ยอดภูเขาน้ำแข็ง'




น่าเสียดายที่ผมคงไม่อาจพูดถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำแข็งนั่นได้ หากแต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอสามารถทำได้ สิ่งที่อยู่ใต้บริเวณส่วนนั้นมักเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ 'คีย์เวิร์ด (Keyword)' ในการค้นหามันอยู่พอสมควร เฉกเช่นกับบริเวณส่วนบนที่มันเองเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรเอง เรื่องหนึ่งที่ผมอาจต้องเตือนคุณสักหน่อย

การถลำลึกลงไปถึงบริเวณส่วนล่างสุดหรือขึ้นมาอีกเล็กน้อยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ 'อันตราย' และ 'ไม่ควรเข้าใกล้' เป็นอย่างยิ่ง โดยมากเราสามารถเข้าถึงได้แค่เพียง 1/4 หรือ 2/4 ของโลกอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ขณะที่อีก 2 ส่วนที่เหลือ คุณจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และ Web Browser เฉพาะที่สร้างขึ้นมาเพื่อสามารถดำดิ่งลึกลงไปหามันได้ (ซึ่งหลังจากนี้ผมจะเรียกสองสิ่งนี้ว่า 'Dark Web' และ 'Deep Web' เสียแล้วกัน)

เอาไว้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง (ถ้าหากว่าผมไม่รู้สึก 'ขี้เกียจ' เกินกว่าจะอธิบายถึงมันเสียหรอกนะ ;p )

ความคิดเห็น