การตายทางสังคม และทฤษฎีเกี่ยวกับโลกอินเตอร์เน็ตในปี 2025 (Dead Internet Theory)
(Thank you Warframe Community Reddit for mai fast boi, really appreciate it.)
Ahh... What a blast month.
จั่วหัวข้อมาคงอาจเป็นเรื่องที่ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินผ่านหูผ่านตามาบ้าง ว่าด้วยเรื่องราวของทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับในโลกของ 'อินเตอร์เน็ต' ที่เนื้อหาแทบทั้งหมดส่วนนึงมันถูกแทนที่ด้วยการที่มันกลายเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นจาก 'ปัญญาประดิษฐ์' มากกว่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ไปแล้ว
อย่างไรก็ดี สำหรับเรื่องราวส่วนนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แม้แต่คนที่ใช้ชีวิตอยู่กับโลกแห่งนี้มาค่อนข้างเป็นระยะเวลานานคงพูดได้ยากว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะหากเท่าที่ผมลองสังเกตมานับไปจากช่วงตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ Golden Era ยันมาจนถึงยุคที่การสร้างสรรค์ผลงานผ่าน AI-Generated ที่นับวันยิ่งเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่สายตาของมนุษย์จะสามารถแยกมันออกไปได้
ไม่แน่ว่า Dead Internet Theory นั้นอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2016 หรือ 2017 ไปแล้วก็เป็นได้ จริงไหม? :)
หากแต่อย่างไร ผมคงอาจต้องขอข้ามเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฎีพวกนี้ไปก่อน และเพื่อที่จะเข้ากันได้เกี่ยวกับเรื่องราวอีกหัวข้อหนึ่งที่มันค่อนข้างโด่งดังมากพอสมควร และดูเหมือนเจ้าหัวข้อ ๆ นี้มันค่อนข้างดูเป็นอะไรที่มันเชื่อมโยงไปได้ถึงการที่มัน 'เบี่ยงเบน' ความสนใจของเราไปได้มากพอสมควร
สิ่งที่เหมือนมันมาควบคู่พร้อมกับวิดีโอเกม และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของเหล่าผู้เล่นเกมจำนวนมากหน้าหลายตา ก่อนที่จะก่อตัวกลายเป็น 'สังคมในโลกเสมือน' เพื่อที่จะใช้มันเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินอันไม่สุจริต
เพื่อจะให้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ ผมจะไม่ขอเกริ่นนำอะไร นอกเสียจากดูคลิปที่ผมนำมาแปะไว้ข้างล่างนี้เสียแล้วกัน
My my, what a 'cruel' world it is...
ผมคงอาจไม่พูดถึงเรื่อง ๆ นี้ ถ้าไม่ติดว่าภายใต้ในการที่ใครหรือกลุ่มคนสักคนพยายามทำตัว 'กร่าง' ใส่ผู้อื่นทั้้งในและนอกเกมนั้น มันจะมีสิ่ง ๆ หนึ่งที่ในหัวของผมเต็มไปด้วยการตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับพวกเขา
โดยหนึ่งในนั้นคงเป็นเรื่องของ 'สิทธิ' และ 'ความเป็นส่วนตัว' ที่ผมคิดว่านานวันเข้า เจ้าสิ่ง ๆ นี้มันเริ่มถูกลดความสำคัญลงไปน้อยเกินกว่าที่มันจะควรเป็น
ผมอาจจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เยอะมากเท่าไหร่ เฉกเช่นเดียวเองกับในเรื่องของสังคมของเหล่ามนุษย์ 'ฮ่าฟฟู่ (?)' ที่ผมไม่เคยคิดจะย่างกรายเข้าไปแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเพราะด้วยความรู้สึกกระดากอายในตัวเอง หรือเป็นเพราะภาพลักษณ์ของมันที่กลับนำเสนอไปเพียงแต่เรื่องราวของ 'วัยรุ่นใจร้อน' และ 'อาชญากรรม ความรุนแรง' ที่มันดูเหมือนจะเหนือจริงไปยิ่งกว่าภาพอุดมคติภายในหัวที่ตัวผมคิดเอาไว้
สองส่วนหลังอาจช่วยขยายความรู้และจินตนาการผมออกได้บ้าง หากแต่มันไม่มีส่วนไหนที่ผมกลับกังวลมากเท่ากับเรื่องของ 'ความเป็นส่วนตัว' ที่นานวันนั้น มันดูเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่ถูกเหล่าพวกผู้มีผลประโยชน์เข้าครอบครอง และมีสิทธิ์มีอำนาจในการชี้เป็นชีวิตของผู้คนได้ตามใจชอบ ซึ่งไม่ว่าผมจะพยายามมองให้เป็นในแง่ดีแค่ไหน มันก็ไม่อาจทำให้ผมสลัดความรู้สึกของ 'ความเกลียดชัง' ที่ผมมีต่อการทำงานอย่างสะเพร่าของระบบราชการ หรือแม้แต่พวกผู้นำที่สักแต่หวังผลประโยชน์ของพวกเดียวกันเอง
"ความโกรธ" และ "ความเกลียดชัง" ในตัวของผม
นับวันมันยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
พอ ๆ กับคนกลุ่มผู้เกลียดชาติพันธุ์ยิวที่หวังอยากล้างบางให้หายไปจากโลก
แต่อย่าได้ห่วงไป เจ้าอารมณ์ทั้งสองนั้นไม่ได้มาเยือนหาผมบ่อย ๆ นัก แม้ตัวมันจะเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนคอยเคียงข้างผมมาก็จริง แต่ในหลายครั้งมันก็ทำให้ผมรู้ว่าผมควรหันไปใช้เวลาสักพักเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หลีกเลี่ยงการเสพข่าวสารแย่ ๆ อะไรก็ตามที่เหมือนว่าพวกเราทำสิ่งเหล่านี้กันจนเป็น 'เรื่องปกติ' ในสังคมจนไม่รู้ตัว
Let's step back in time
Enjoy the 'Frutigo Aero' with me.
เดือนต่อไปผมมีแพลนสำหรับการเขียนบล็อกโพสต์ต่อไปไว้ในจำนวนที่เยอะระดับหนึ่ง อย่างไรเองก็ตามแต่ หนึ่งในโพสต์เหล่านั้นจะเป็นการพูดถึงเรื่องของวิดีโอเกมที่ผมกำลัง 'ติดพัน' มันมากเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้ ประกอบกับว่าด้วยเรื่องราวของสิ่งต่าง ๆ และว่าด้วยเกมจำพวก Walking Simulator ที่มันดูเหมือนอาจไมได้เป็นแนวที่คนนิยมเท่าไหร่นัก แต่มันก็น่าเป็นสิ่งที่นำมาพูดถึง (และเช่นเคย เราจะไม่มีการเจาะลึกหรือมีการ 'สปอย' เนื้อหาของเกมมาแต่อย่างใด)
เพราะงั้นสำหรับโพสต์นี้ ก็ถือไว้ว่าเป็นโพสต์สั้น ๆ สำหรับการทำงานในช่วงวันสุดท้ายของเดือนมกราคมปี 2025
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น